วันอาทิตย์, พฤษภาคม 27, 2550

พักร้อนก่อนเปิดเทอม

ไปค้างบ้านพิสัยมาค้าบ มีจุดมุ่งหมายคือจะไปว่ายน้ำบ้านมัน อยากว่ายน้ำมากๆ
ให้มันหาแว่นตาว่ายน้ำให้หน่อย มันดันหาไม่เจอ เลยไม่ว่ายก็ได้ กลัวน้ำเข้าตา
แล้วตาแดง ทรมานเกินไป พอมาวันหลังๆดันเจอแว่นตาว่ายน้ำอยู่ที่ห้องนอนแขก
เสียใจอย่างรุนแรง เพิ่งจะมาเจอ อดว่ายเลยกรู

อยู่บ้านท่านพิสัยนะครับ มีแต่ความสะดวกสบาย แต่คราวนี้น่าเบื่อไปหน่อย
เพราะหยุ้นเล่นลุยคนเดียวเลย ปกติจะไปกันหลายๆคน เฮฮาปาจิงโกะมาก
แต่คราวนี้ไปคืออยากพักร้อนก่อนเปิดเทอม แล้วก็ต้องการนอนให้ตรงเวลาด้วย
เวลาเพื่อนมาเยอะๆ นู่นเลยกว่าจะได้นอนพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว แต่คราวนี้มาคนเดียว
เลยนอนเร๊วเร็ว ไม่ถึงเที่ยงคืนพิสัยก็หลับแล้ว เพราะปกติพิสัยจะนอนดึกมาก

แต่คราวนี้ไม่มีผองเพื่อนมา เสร็จหยุ้นเลย หลับสบายเชียว

มาบ้านพิสัยจะต้องมีอาหารประจำบ้านคือ ข้าวหมูกระเทียมไข่ดาว
ครั้งไหนมาบ้านมันแล้วไม่ได้กิน เหมือนมาไม่ถึงตลิ่งชัน เป็นอาหารสิ้นคิดประจำบ้าน
เอะอะๆอะไรๆก็หมูเทียมไข่ดาว คนใช้มาถามจะกินอาราย สำเนียงพม่าๆหน่อย

เพราะมั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ว่าไม่ใช่คนไทย ก็สั่งอาหารประจำบ้านไป อร่อยๆ

ส่วนวันเสาร์พิสัยเค้ามีเดทไปดูหนังที่ Esplanade รัชดา ซึ่งบ้านเกิดอยู่ตลิ่งชัน
แล้วไปดูหนังรัชดา โคตรจะขยันเลย มันเลยให้คนขับรถไปส่งที่หัวลำโพง
แล้วมันก็นั่งใต้ดินไปศูนย์วัฒนธรรมฯ ส่วนหยุ้นแยกกะมันที่หัวลำโพงเพื่อที่จะไปสยาม
เพราะไม่อยากไปรัชดา มันคือทางกลับบ้านเลย ไม่รู้จะไปทำไม
ร้านในห้างก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี เลยขอไปเดินห้างที่มันสมบูรณ์ดีกว่า
แล้ว 5 โมงเย็นกลับมาเจอมันที่หัวลำโพงตามเดิม รับทราบบบบบบ...บ

เลวเหลือเกินพิสัย ชักชวนให้ออกมานอกบ้านแล้วทิ้งกูให้เดินสยามคนเดียว 5 ชั่วโมง
บ้าไปแล้ว เดินไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็จะตายอยู่แล้ว วันเสาร์อีก คนไม่รู้จะเยอะไปไหน
ยังกะมีแจกของฟรี ไม่รู้จะมาทำไมกันเยอะแยะ เดินแล้วปวดหัวเหลือเกิน
เลยโทรหาพลอตว่าอยู่บ้านหรือเปล่า ถ้าอยู่จะซื้อชูครีม beard papa ไปฝาก
ให้คุณพ่อคุณแม่ลองชิมด้วย เพราะมันอร่อยเหนือคำบรรยาย แต่อ้วนมากถึงมากที่สุด
แล้วกว่ามันจะรับโทรศัพท์ นานเหลือเกิน มันบอกมันหลับอยู่เพิ่งไปเรียนพิเศษมา
เลยรีบซื้อรีบไป ออกจากสยามบ่ายสองโมง โดยสาย 79 กับอาการปวดหัวนิดๆ
ราคา 22 บาท นั่งไปเถอะ รถติดเหลือเกินตรงยมราชเนี่ย ประมาณครึ่งชั่วโมงได้
อยู่กับที่ไม่ขยับไปไหนเลย กว่าจะถึงสาย 2 ล่อไป 4 โมงครึ่ง ย้ำว่า 4 โมงครึ่ง
นั่งไป 2 ชั่วโมงครึ่ง ทำไปได้นะเนี่ย คุ้มเลย 22 บาทกับแอร์เย็นฉ่ำ เฮ้อ..อ

ก็นั่งเล่นถึง 5 โมงนิดๆ คุณพ่อคุณแม่ก็มาพอดีเลยชวนหยุ้นไปกินสเต็กแถวบางโพ
ไม่เคยไปมาก่อนแถวนั้นมาก่อน เพราะปกติกลับบ้านจะเลี้ยวเข้าเกียกกายตลอด
ร้านคนเยอะอยู่ ต้องรอประมาณเกือบ 15 นาที กว่าจะได้ที่นั่ง เข้าไปนั่งโต๊ะ
แล้วโต๊ะก็เป็นแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส นั่งกันด้านละคน หยุ้นนั่งตรงข้ามคุณพ่อเลย
อื้อหือ ก้มหน้าก้มตากิน ไม่กล้ามองหน้า เลยมองไปที่อื่น มองทีวี
ทั้งๆที่มันปิดอยู่ไม่รู้จะมองทำบ้าไร ไม่กล้าสบตาอย่างแรง น่ากลัวง่ะ

หลังจากนั้นก็ไปโบสถ์แถวโรงเรียนต่อ คราวนี้พิธีประมาณชั่วโมงนึงไม่นานมาก
ยืนนั่งคุกเข่าเหมือนเดิม แล้วก็มีร้องเพลงไรประมาณนี้ ไอ้พลอตก็ร้องตามๆไป
เสียงหลงได้อีก ตลกดีเสียงมัน แล้วก็กลับบ้านโดยไปทางซังฮี้ ทันใดนั้น
เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้น เครื่องดับครับท่าน สตาร์ทตั้งนานไม่ติดซะที
กลางถนนซะด้วย เลยต้องลงไปเข็นเข้าริมถนน แล้วเรียกแท็กซี่ให้ลากรถกลับบ้าน
คือมีสายลากอยู่หลังรถพอดี เลยคุยกะพลอตว่าถ้าตอนไปเชียงใหม่ แล้วเครื่องดับ
จะทำไงดี ตอบไม่ถูกตามๆกัน

พอกลับถึงบ้านพิสัย ไอ้หนวดมาเสริมอีกแรง นั่งคุยกะมันไปหลายชั่วโมงอยู่
ไม่ได้เจอมันนานเหลือเกิน ตั้งแต่ปีใหม่เลยมั้งนั่น ส่วนพิสัยเค้าคุยกะสาว
เดี๋ยวนี้มีฟงมีแฟน แล้วแฟนเสือกเป็นน้องรหัสตัวเองอีก ไม่ค่อยขยันเลยนะนาย
กว่าจะได้นอนก็เกือบตี 1 รุ่งเช้าต้องรีบออกจากบ้านเพราะพิสัยมีประชุมงาน
ที่ท่าพระจันทร์ ทำให้หยุ้นและหนวดต้องติดรถออกมาด้วย ไม่อยากกลับบ้านเอง
มันไกลเหลือเกิน แล้วก็แยกกันที่ท่าพระจันทร์

สรุปพักร้อนก่อนเปิดเทอมครั้งนี้มีหลายอารมณ์จริงๆ ทั้งสนุก ทั้งเหงา ทั้งเบื่อ ฯลฯ
มากมายหลายสิ่ง พร้อมจะลุยกับการเปิดเทอมปี 3 แล้ว โคตรแก่เลย