มีงานคริสต์มาสที่โรงเรียนเมื่อวาน คิดไปคิดมาอยู่หลายตลบว่าจะไปดีมั้ยวะ
เพราะตอนบ่ายต้องเรียนอังกฤษ แล้วห้าโมงเย็นก็มีสอบอังกฤษด้วย
แต่ถ้าไปก็ต้องไปตอนเช้า แล้วก็มาเรียนตอนบ่าย ตอนเช้าก็ไม่อยากโดด
เพราะอยากยืมชีทเพื่อนเหลือเกิน ไม่มีอะไรจะอ่านเลยวิชานี้
นั่งคิดไปคิดมา โทรหาคนนู้นคนนี้ว่ามึงไปไหม ไปกี่โมง บลาบลาบลา
กว่าจะได้ออกจากบ้านก็เกือบจะ 9 โมงแล้ว จนสรุปสุดท้ายลองโทรหาไอ้กึ๊บดู
เห็นมันบอกเมื่อวานว่าจะไปตอนเช้า แล้วตอนบ่ายจะไปม.กรุงเทพ
มันก็ทางเดียวกะกูนี่หว่า สรุปแล้วคือไปโรงเรียนอยู่ถึง 11 โมงแล้วค่อยไปมหา'ลัย
ตอนนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนก็พยายามจะอ่านหนังสือ แต่แม่งไม่มีสมาธิเลย
มือจับชีท แต่ตามองไปไหนต่อไหน หนาวก็หนาว อยู่ดีดีไอ้พลอตโทรเข้ามา
กูคิดในใจชิปหายแล้ว เอาไงดี เอาไงดี บอกมันตอนแรกว่าไม่ไปเพราะติดเรียน
จะรับดีมั้ย จะรับดีมั้ย แล้วก็รับ พยายามทำเหมือนว่ากำลังไปมหา'ลัย
มันก็โทรมาบ่นๆว่าอยู่ไหน งานแม่งโคตรน่าเบื่อไรไม่รู้ แต่กูก็ไม่อยากโกหกมัน
เลยบอกมันไปว่ากำลังไปโรงเรียน ถึงแล้วเดี๋ยวโทรหา
พอถึงโรงเรียนก็ไม่ได้โทรหามันหรอก กูมีเหตุผลของกูที่ไม่โทร
อธิบายให้มันฟังไปแล้ว เลยเดินเล่นซะรอบโรงเรียนเลย แต่ก็ไม่เสียตังค์ซักแอะ
เจอรุ่นน้องตรึมเลย ทั้งพวกสโมสรที่แม่งขายของอยู่หน้าโรงเรียน
เจอรเณศเข้ามาขายสติ๊กเกอร์ กูบอกว่าเพิ่งมาได้ป้ะ ขอเดินก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน
มันบอกให้ไปดูร้านมันด้วย กูก็ไม่รู้หรอกร้านไหน เดินมั่วๆรอบแรกก็ไม่เห็นจะมีอะไร
เดินวนไปวนมาอีกหลายรอบ เจอไอ้หลีตูดบิด เหม็นหน้าชิปหาย ทำเป็นไม่เห็นมัน
เพราะมันก็คงทำเป็นไม่เห็นกูเหมือนกัน อย่าเจอกันอีกเลยไอ้หลงตัวเอง
เดินไปที่ซุ้มโครงงานม.4 อีกรอบ คราวนี้เจอรเณศที่ร้านจังๆเลย
แต่กูทำเป็นไม่เห็น แม่งก็ตะโกนเรียกชื่อกูซะแบบจะไปเชียร์บอลโลก
กูว่าเสียงมันดังนะ แต่กูเหี้ยเกินทำเป็นไม่ได้ยิน ฮ่าๆ กูไม่อยากซื้อสติ๊กเกอร์นี่นา
กระเป๋านักเรียนกูก็ไม่มี แล้วจะเอาไปแปะเหี้ยไร เออพูดถึงกระเป๋านักเรียน
นึกแล้วเสียดายจริงๆ ไม่น่าให้ไอ้เหี้ยหลีตูดบิดไปเลย เสียของจริงๆ
ตอนเดินจะออกนอกโรงเรียนก็ขอแวะร้านสโมสรแปปนึง ทักทายน้องๆ
แล้วก็ขอยืมถุงเพื่อน ที่มันซื้อของมาเยอะๆมายืมถือหน่อย เดี๋ยวกูโดนซื้อของ
เลยต้องเอาถุงโชว์ว่าซื้อหมดตัวแล้ว พวกแม่งก็เชื่อซะงั้น ฮ่าๆ
ใกล้จะออกเจอชิตพล แต่งตัวมาซะหล่อ ได้ข่าวว่าต้องแข่งบอลไม่ใช่หรือ
จะมาเคลียร์เรื่องค้างคาใจตอนกูม.6 กูก็บอกว่าไม่ได้โกรธมันแล้ว
แต่โกรธมันที่โทรไปไม่รับ แล้วไม่โทรกลับ (อันนี้คิดในใจ ยังไม่ได้พูด)
สันดานจริงอ่ะ ไอ้พวกที่โทรไปรับก็ไม่รับ โทรกลับก็ไม่ยอมโทร
เก็บตังค์ไว้โทรหาเมีย โมโหๆ มีปัญหาไรมาจะทิ้งไอ้พวกนี้ให้หมดเลย
นั่งแท็กซี่ไปมหา'ลัยลงหน้าม.กรุงเทพ แล้วกูก็นั่งรถเมล์ต่อไปมธ. อีก
โคตรจะเปลืองเลย ถึงนู่นโทรหาเพื่อนเพื่อยืมชีทวิชาเมื่อเช้า จนได้ชีทมา
ค่อยอุ่นใจหน่อย กูมีชีทอ่านแล้ว แต่จะตอบได้กับโม้ได้รึเปล่านีอีกเรื่อง
สอบอังกฤษจะเป็นลม มันไม่ยากหรอกนะ แต่มันพูดเร็วเหลือเกิน
แล้วกูเขียนไม่ทัน ฟังน่ะฟังออก ไม่รู้จะรีบพูดไปไหน คนคุมสอบกูก็นะ
ปรับเสียงอยู่นั่นแหล่ะ เดี่ยวดังเดี๋ยวค่อย แล้วตอนปรับมันก็จะมีเสียงซ่าๆ
แล้วซ่าไม่ซ่า ดันมาซ่าตรงประโยคที่ต้องเติม โมโหๆ กูเลยต้องเดาเลย
ห่า เขียนซ่าไปกลัวจะไม่ได้คะแนน พยายามเรียบเรียงนึกประโยคที่เหมาะสม
แล้วก็มั่วไป เสียไป 1 คะแนนเลยกู ชิชะ
ก่อนถึงบ้านแวะเซ็นทรัล ลาดพร้าวแปปนึง ไปดูเสื้อ Hybrid ว่าที่ลด 50%
ยังมีเหลืออยู่ไหม ปรากฏว่ามีรอก่อนๆ เดี๋ยวจะมาซื้อ 595 บาท
เสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีแดง เล็งมานานตั้งแต่มันยังไม่ลดราคา
กว่าแม่งจะลดที ผมหงอกแทบขึ้น ลดทั้งทีก็อุดหนุนเค้าหน่อยน่า
แล้วก็เดินไปร้าน Converse เพราะตอนนี้อยากได้ All Stars สักคู่
สีเหลืองแม่งก็ไม่มี น้ำเงินก็ไม่มี มีแต่กรมท่า สงสัยคงต้องได้แดงซะแล้ว
แต่ก็ดีที่บ้านมีเสื้อสีแดงเยอะ เข้ากันๆ
กลับถึงบ้านอยากจะอ่านหนังสือ แต่ก็ไม่ได้อ่านอีกตามเคย คอมตั้งไว้บนเตียง
ล่อตาล่อใจให้กดเล่นเหลือเกิน เลยสนองความต้องการตัวเองถึง 4 ทุ่ม
เสือกหิวขึ้นมาลงไปทอดไข่เจียว วันนี้อยากกินไข่เจียวฟูๆ เลยใส่น้ำมันเยอะๆ
ต้องมีคาร์เนชั่นแต่ไม่ได้ซื้อ เลยเดาว่านมตราหมีที่เป็นกระป๋องคงเหมือนกัน
ใส่แทนเลยแล้วกัน ออกมารสชาดก็ไม่เห็นต่างกันเลย อิ่มจริงๆ
Merry Christmas 2006